Marigold Lanna Hotel

จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงแห่งอาณาจักรล้านนาอันเป็นอาณาจักรที่ปกครองภูมิภาคทางเหนือของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าร้อยปี เห็นได้จากร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมากมายกระจายทั่วจังหวัด

เชียงใหม่ จังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองหลวงแห่งอาณาจักรล้านนาอันเป็นอาณาจักรที่ปกครองภูมิภาคทางเหนือของประเทศไทย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าร้อยปี เห็นได้จากร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมากมายกระจายทั่วจังหวัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณพื้นที่เมืองเก่าอันเป็นหนึ่งในแหล่งศูนย์กลางสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สำคัญๆ อีกต่อไป แต่ยังมีถนนคนเดิน ตลาด โรงแรม และอุทยาน รวมถึงสวนสาธารณะอีกมากมาย

ในขณะเดียวกัน โรงแรม มาริโกลด์ ล้านนาเองก็เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเมืองเก่า ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่สามารถเดินทางไปได้ภายในระยะเวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น

โดยเราจะขอแบ่งกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวออกเป็นสองส่วนด้วยกัน

ในกลุ่มแรก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากเสียเวลาเดินทางไกลมากนัก จึงขอเริ่มด้วยตัวเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ภายในระยะรัศมีสองกิโลเมตรจากโรงแรมมาริโลกด์ ล้านนามาให้เป็นตัวเลือกในการวางแผนทริปสั้นๆ กัน


วัดพระสิงห์ (800ม. จากโรงแรม)

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และที่สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยวัดพระสิงห์นี้อยู่ห่างจากโรงแรมมาริโกลด์ ล้านนาไปเพียง 0.4 กิโลเมตรเท่านั้น และยังนับได้ว่าเป็นวัดที่ได้รับความเคารพนับถือมากที่สุดเป็นอันดับสองในจังหวัดเชียงใหม่รองจากวัดพระธาตุดอยสุเทพเลยก็ว่าได้

โดยวัดพระสิงห์นี้เป็นวัดที่ประดิษฐาน พระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา ส่งให้วัดพระสิงห์กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงใหม่ มีผู้คนเข้ามาสักการะกันอย่างเนืองแน่น โดยองค์พระพุทธสิหิงค์นี้ประดิษฐานอยู่ในห้องโถงลายคำที่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ได้รับการบูรณะซึ่งแสดงถึงชีวิตของชาวบ้านเมื่อหลายร้อยปีก่อน​

นอกจากวิหารลายคำนี้แล้วยังมีวิหารหลวงซึ่งเป็นที่ตั้งของพระพุทธรูปสมัยศตวรรษที่ 15 ที่หล่อจากทองแดงและทองคำ  ซึ่งวิหารหลวงนี้เป็นโครงสร้างที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด​ โดยตั้งอยู่บนพื้นที่เดิม  การตกแต่งภายในก็มีความประณีตงดงาม​ หากใครที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา​และได้มาที่จังหวัดเชียงใหม่​ก็อย่าพลาดที่จะแวะเวียนมาวัดแห่งนี้

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ  นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมวัดพระสิงห์ได้ ทุกวัน และตลอดเวลา แต่หลังเวลา 17.00 น. ไปจนถึง 07.30 น. อาจไม่สามารถเข้าพื้นที่บางส่วนของวัดได้เนื่องจากเป็นส่วนที่พระสงฆ์จำวัดหรือทำกิจธุระอื่นๆ



วัดศรีสุพรรณ (800ม. จากโรงแรม)

วัดศรีสุพรรณ วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ภายในชุมชนหัตถกรรมช่างหล่อเครื่องเงินซึ่งมีอายุมากกว่า 500ปี ที่ตั้งอยู่บนเส้นถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ความ unseen ของวัดศรีสุพรรณ คืออุโบสถเงิน มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ซึ่งถือว่าเป็นอุโบสถที่ทำด้วยโลหะเงินและดีบุกหลังแรกของโลก ในอดีต พระอุโบสถนี้ไม่ได้ถูกสร้างด้วยเงินมาแต่ต้น แต่เป็นพระอุโบสถที่ถูกสร้างทดแทนขึ้นมาอีกทีหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้กลายเป็นสถาปัตยกรรมทางพระพุทธศาสนา

โดยที่ภายในพระอุโบสถมีการประดิษฐานองค์พระประธานนามพระเจ้าเจ็ดตื๊อเอาไว้ เป็นอุโบสถที่ห้ามผู้หญิงเข้า แต่คุณผู้หญิงก็ยังสามารถชมความงามด้านในจากภายนอกพระอุโบสถได้เช่นกัน เนื่องจากขนาดที่ไม่ใหญ่ของพระอุโบสถ นอกจากนี้ภายในวัดศรีสุพรรรณ ยังมีพระบรมธาตุ พิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาสล่าสิบหมู่ด้วย ซึ่งวัดศรีสุพรรณนี้อยู่ห่างจากโรงแรมมาริโกลด์ ล้านนาไปเพียง 0.4 กิโลเมตรเท่านั้น

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ วัดศรีสุพรรณเปิดทำการตั้งแต่ 06.00 - 21.00 น.




ประตูเชียงใหม่ (800ม. จากโรงแรม)

ประตูเชียงใหม่ หนึ่งในห้าประตูเมืองเชียงใหม่ เป็นประตูเมืองเชียงใหม่ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวในฐานะจุดเริ่มต้นของสถานที่ที่รวมของอร่อยมากมาย ตั้งอยู่ทางทิศใต้คู่กับประตูแสนปุง

ประตูเชียงใหม่นี้เป็นจุดตั้งต้นของถนนวัวลาย และตลาดประตูเชียงใหม่ ซึ่งห่างจากโรงแรมมาริโกลด์ ล้านนา 0.8 กิโลเมตร และยังคึกคักและคราคล่ำไปด้วยผู้คนที่ต้องการจะต่อรถตู้ที่ตั้งอยู่หน้าตลาดไปอำเภอที่อยู่ทางทิศใต้ของเชียงใหม่ อาทิ หางดง สันป่าตอง แม่แจ่ม และอีกมากมายอีกด้วย

ตลาดแห่งนี้จะเปิดเป็นเวลาคือช่วงเช้าตั้งแต่ตีสามถึงประมาณสิบเอ็ดโมง ส่วนใหญ่จะขายวัตถุดิบที่เน้นไปประกอบอาหารแต่ความพิเศษอยู่ตรงที่เมื่อเราเดินไปเรื่อย ๆ ก็จะพบกับวัตถุดิบท้องถิ่น อาทิเครื่องแกงของทางภาคเหนือ ส่วนในช่วงเย็นจะเปิดตอนห้าโมงเย็นเป็นต้นไป และส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารปรุงสุกพร้อมทานให้ได้เลือกซื้อเลือกหากันทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน






อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ (1.8 กม. จากโรงแรม)

อนุสาวรีย์สามกษัตริย์นับเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองเชียงใหม่ซึ่งเป็นที่รำลึกถึงการก่อตั้งเมืองเชียงใหม่และความร่วมมือร่วมใจกันสร้างเมืองแห่งนี้ระหว่าง พญางำเมืองแห่งเมืองพะเยา พญาเม็งราย แห่งเมืองเชียงใหม่ และ พ่อขุนรามคำแหงแห่งสุโขทัยในการก่อตั้งเมือง 

ในปัจจุบันนี้จัตุรัสหน้าอนุสาวรีย์เป็นจุดนัดพบของผู้คนและนักเดินทางที่แวะเวียนกันมาอย่างไม่ขาดสาย และช่วงที่คึกคักที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นช่วงที่จัด “งานประเพณียี่เป็ง” ในช่วงหน้าหนาว โดยบริเวณด้านหน้าจะถูกตกแต่งด้วยโคมไฟสไตล์ล้านนา หลากสีที่ห้อยเรียงรายสวยงามอยู่ทั่วบริเวณ และยังมีการสาธิตการทำงานหัตถกรรมที่เป็นประโยชน์ของคนในชุมชนอีกด้วย ทำให้ได้เห็นถึงมนตร์เสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่ในหลาย ๆ แง่มุมได้เป็นอย่างดี







ประตูท่าแพ (1.9 กม. จากโรงแรม)

เนื่องจากเชียงใหม่เคยเป็นเมืองหลวงของ "อาณาจักรล้านนา" ที่ปกครองภาคเหนือของประเทศไทยและเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน​ ซึ่ง หากต้องการจะชมร่องรอยของอารยธรรม​ที่ยังคงหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน​ก็คงจะต้องมาที่ " ประตูท่าแพ " เพราะด้วยความสมบูรณ์ของสถาปัตยกรรม​แห่งนี้จะทำให้เราได้เห็นศิลปะในสมัยล้านนา​ได้อย่างชัดเจน​ หากไม่มาเดินเล่น​ นั่งชมบรรยากาศในช่วงเช้าที่ผู้คนยังไม่พลุกพล่าน​ นั่งมองแสงแดดยามเช้าที่สะท้อนลงมายังตัวกำแพงอิฐสีแดงส้ม ก็คล้ายกับว่าเรากำลังกลับไปอยู่ในช่วงยุคสมัยนั้นเลยก็ว่าได้​ 

ซึ่งประตูท่าแพนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่าหนึ่งในประตูเมืองทั้งห้าที่ตั้งเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสล้อมรอบเมืองเชียงใหม่​ ในแต่ละด้านทั้งทิศเหนือ, ใต้, ตะวันออกและตะวันตก โดยในอดีตจะมีโครงสร้างที่ไว้ใช้สำหรับป้องกันศัตรู จึงมีการสร้างกำแพงเมืองเอาไว้ถึงสองชั้น​ สร้างขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยพญามังราย​นั่นเอง





วัดเจดีย์หลวง (1.4 กม. จากโรงแรม)

 เป็นสถานที่ที่ประดิษฐาน​ของเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นในช่วงระหว่าง พ.ศ. 1385 - 1402 ในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมือง​ แห่งราชวงศ์เม็งราย เจดีย์มีความยาว​ 60 เมตร มีฐานสี่เหลี่ยม และสูง 80 เมตร

ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของพระแก้วมรกตซึ่งเป็นพระพุทธ​รูปที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประเทศไทย

ส่วนปลายยอดที่หายไปของเจดีย์นั้นได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวในปีพ.ศ.​2088 ความสูงของเจดีย์จึงลดลงเกือบครึ่งหนึ่งของขนาดดั้งเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งโครงสร้างสวยงามตามศิลปะแบบเชียงใหม่ตอนต้นที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะปาละ (อินเดีย)   ต่อมาในปี พ.ศ.​ 2535 กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะรอบเจดีย์โดยการสร้างบันไดนาคและรูปปั้นช้างขึ้นมาใหม่​ นอกจากความสวยงามภายนอกแล้วเจดีย์​แห่งนี้ยังซ่อนความลับเอาไว้ด้านใต้ฐานอีกด้วย​ เพราะระหว่างการบูรณะทางทีมสำรวจได้เข้าไปพบอุโมงค์ทางด้านใต้ฐานเจดีย์ แต่เนื่องด้วยความเสียหายของเจดีย์นั้นมีมากขึ้นทำให้ไม่สามารถเข้าไปในอุโมงค์จนสุดทางได้​ แต่เพื่อความปลอดภัย เจดีย์องค์นี้จึงไม่อนุญาตให้ผู้คนเข้าไปจนถึงปัจจุบัน​ ใครที่ชื่นชอบและหลงใหลในศิลปะวัฒนธรรมโบราณ หากมาที่นี่แล้วแน่นอนว่าจะต้องไม่ผิดหวังแน่นอน​ โดยสามารถไปเที่ยวชมวัดเจดีย์หลวงได้ทุกวัน โดยเวลาที่มีการการเปิด-ปิดทำการ คือเวลา 05.00 น. – 22.30 น. 

อัตราค่าเข้าชม : ค่าบริการฟรีสำหรับชาวไทย และชาวต่างชาติ 40 บาท


วัดพันเตา (1.5 กม. จากโรงแรม)

วัดขนาดเล็ก มีความเก่าแก่กลางเมืองเชียงใหม่ ในอดีตเป็นแหล่งผลิตเตาหล่อพระ เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อวัดจากวัดปันเต้า (พันเท่า) นอกจากนี้ยังมีวิหารที่สร้างจากไม้สักทองทั้งหลังตามศิลปะแบบเชียงแสนเป็นวิหารที่งดงามและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยวัดพันเตา ตั้งอยู่ติดกับวัดเจดีย์หลวง นับได้ว่าการเดินทางมาเพียงวัดเดียว ก็สามารถเข้าไปสักการะบูชาได้ถึงสองวัดเลยทีเดียว 

โดยสถานที่ตั้งของวัดพันเตา ตั้งอยู่บนถนนพระปกเกล้า  ตำบลพระสิงห์  อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดทุกวัน เวลา 06.00-18.00น.

สอบถามข้อมูล โทร.053-814689







ต่อมา ในกลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่ขยายขอบเขตกว้างขึ้นมาอีกเล็กน้อย เป็นสถานที่แนะนำสำหรับคนที่อยากจะขยายขอบเขตระยะการวางแผนเที่ยวจากโรงแรมให้กว้างขึ้นภายในระยะรัศมี 5 กิโลเมตร ซึ่งก็ยังมีสถานที่รอบๆ โรงแรมมาแนะนำเพิ่มเติมเพื่ออรรถรสในการเที่ยวเมืองเชียงใหม่มากขึ้น


ถนนนิมมานเหมินทร์

ถนนแห่งการค้าขายและแหล่งบันเทิงที่โด่งดังของเชียงใหม่ บรรยากาศความสวยงามยามค่ำคืนบนถนนสายนี้ ที่เต็มไปด้วยบรรดาร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และที่พักมากมาย จะตกแต่งร้านตามสไตล์ที่มีความชัดเจน เป็นตัวเอง มีความยูนีคและใส่ไอเดียกันอย่างเต็มที่ โดยการเดินทางสามารถเดินทางได้จากทั้งรถยนต์โดยสารส่วนตัว หรือแม้แต่รถโดยสารสาธารณะ (สามารถเดินทางจากโรงแรมซึ่งตั้งอยู่บนถนนช่างหล่อ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนบุญเรืองฤทธิ์ ขับตรงไปสามแยกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุเทพ มุ่งหน้าต่อไปถึงสี่แยกเลี้ยวขวาจะเข้าสู่ถนนนิมมานเหมินทร์) หรือรถประจำทาง โดยโบกรถสองแถวแดงได้จากทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ และบอกจุดหมายกับคนขับว่า ไปถนนนิมมานเหมินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ ณ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 

เวลาเปิด-ปิด : สำหรับวันอาทิตย์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 11.00-24.00 น.


วัดอุโมงค์

วัดอุโมงค์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งที่ห่างออกมาจากโรงแรมมาริโกลด์ ล้านนาประมาณ 4.8 กิโลเมตร

อีกหนึ่งวัดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่ชื่อเรียก โดยที่มาของชื่อ “วัดอุโมงค์” นี้มาจากการที่ได้มีพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในอุโมงค์บริเวณฐานของพระเจดีย์ใหญ่ในวัดเวฬุกัฏฐาราม โดยวัดอุโมงค์นี้ จะนับเฉพาะในส่วนของอุโมงค์เถรจันทร์ภายในสวนพุทธธรรมเท่านั้น นอกจากนี้ ภายในอุโมงค์ยังสามารถพบเห็นร่องรอยของจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่า 500 ปีได้เป็นช่วงๆ อีกด้วย

อันที่จริงแล้ว วัดอุโมงค์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถนนนิมมานเหมินทร์ที่เป็นฮิปสตรีทชื่อดังของเชียงใหม่นัก แต่บรรยากาศภายในกลับเงียบสงบร่มรื่น ส่งให้จิตใจรู้สึกสงบร่มเย็น ทำให้เป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวพุทธว่าเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ชาวพุทธจากทั่วโลกนิยมจะมากันเพื่อปฏิบัติธรรม

เวลาในการเปิด-ปิดทำการ นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมวัดอุโมงค์ได้ ทุกวัน ตลอดเวลา และไม่เสียค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าชม หรือสักการะ


และนอกจากสถานที่ข้างต้นที่ได้แนะนำไปแล้ว โรงแรมมาริโกลด์ ล้านนา ยังพบสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้เข้าพักในโรงแรมของเรา แม้จะอยู่ห่างออกไปกว่า 10 กิโลเมตรก็ตาม นั่นก็คือ อุทยานหลวงราชพฤกษ์นั่นเอง


อุทยานหลวงราชพฤกษ์

สวนจัดการแสดงดอกไม้นานาพันธุ์ ที่รวบรวมพันธุ์ไม้จำนวนมากทั่วทุกมุมของโลก สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยมีพื้นที่กว่า 500 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และภายในมีการจัดนิทรรศด้านการทางการเกษตรที่เป็นประโยชน์เพื่อการเรียนรู้สำหรับผู้มาเยี่ยมชมทั่วไป  นอกจากนี้ยังถือเป็นจุดนัดพบของเกษตรกรและผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและเพาะปลูกอีกด้วย

สถาปัตยกรรมภายในของอุทยาน โดยเฉพาะศาลาหอคำหลวงที่สร้างขึ้นใหม่เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีความโดดเด่นด้วยศิลปะแบบล้านนาที่มีความงดงาม สวนภายในจะจัดเป็นนิทรรศการภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 และโครงการพระราชดำริ มีการแบ่งออกเป็นโซนทั้งหมด 9 โซนอย่างชัดเจนซึ่งทำให้ผู้เข้าชมสามารถเดินเที่ยวรอบ ๆ สวนได้ง่าย อาทิเช่น สวนไทยทรอปิคอล หรือเรือนกระจกที่จัดแสดงโชว์ต้นไม้จากทะเลทราย สวนนานาชาติที่นำพันธุ์ไม้จากกว่า 22 ประเทศมาจัดแสดงตามรูปแบบการจัดสวนในแต่ละประเทศให้ได้รับชม และถ่ายรูปกัน โดยอุทยานราชพฤกษ์เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 - 18.00 น. 


อัตราค่าบริการ: คนไทย  ผู้ใหญ่    ค่าเข้าชม 100 บาท 

เด็ก ค่าเข้าชม 70 บาท  ** ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ ราคา 70 บาท

พระภิกษุ สามเณร ไม่เสียค่าเข้าชม

ชาวต่างชาติ  ผู้ใหญ่    ค่าเข้าชม 200 บาท

เด็ก    ค่าเข้าชม  150 บาท

อีกทั้งยังมีรถกอล์ฟให้เช่าบริการอัตราค่าบริการ ชั่วโมงละ 600 บาท/ชั่วโมง

จักรยาน อัตราค่าบริการ 60บาท/ครั้ง

รถชมสวน บริการฟรี


เชียงใหม่ไนท์บาซาร์

 เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อในเรื่องของศิลปะและงานฝีมือเป็นอย่างมาก เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมศิลปินทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นเอาไว้ และถ้าหากใครที่อยากจะชื่นชมงานศิลปะของเหล่าศิลปิน รวมถึงหาซื้อสินค้างานอาร์ตต่างๆ ไปเป็นของฝากและที่ระลึกแล้วล่ะก็ คุณไม่ควรที่จะพลาดการไปเที่ยวในไนท์พลาซ่าเชียงใหม่แห่งนี้เด็ดขาด​ เพราะที่นี่เป็นเหมือนแหล่งรวมของใช้ของฝากให้คุณได้เลือกซื้อมากมาย​  ไม่ว่าจะเป็นงานหัตถกรรม ผ้าพื้นเมือง รูปวาด หรือแม้แต่ของตกแต่งบ้านก็ม​ ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น แม้จะเป็นงานศิลปะที่มีรูปแบบเฉพาะตัวแต่ราคาก็น่ารัก​ สามารถเข้าถึงได้ และสามารถเดินเลือกซื้อได้อย่างสบายใจ​ หรือหากใครเดินช็อปปิ้งจนเมื่อยเท้าแล้ว ที่นี่ก็ยังมีบริการนวดแผนไทยอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ทำให้เราสามารถไปเลือกร้านได้ตามแต่ใจ โดยที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 17.00 – 24.00 น.